บรรจุภัณฑ์ยุคใหม่ ยกระดับการขนส่งไทยด้วยเทคโนโลยีรัดสินค้าอัจฉริยะ
ในยุคที่โลจิสติกส์และอีคอมเมิร์ซเติบโตแบบก้าวกระโดด การรัดสินค้าก่อนขนส่งไม่ได้เป็นแค่ “ขั้นตอนเล็กๆ” อีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของสินค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ ล่าสุดโรงงานบรรจุภัณฑ์ในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก ได้ลงทุนปรับปรุงระบบรัดสินค้าใหม่ทั้งหมด โดยมีไฮไลต์คือการนำ เครื่องเชื่อมสายรัดพลาสติก เข้ามาใช้งานในสายการผลิต
เครื่องเชื่อมสายรัดพลาสติก รุ่นใหม่ที่ใช้ในโรงงานนี้สามารถเชื่อมสายได้อย่างแน่นหนาในเวลาไม่ถึง 2 วินาที พร้อมระบบควบคุมแรงตึงอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าสายรัดจะหลวมเกินไปหรือแน่นเกินไปจนทำลายบรรจุภัณฑ์ ที่สำคัญคือสามารถใช้ได้ทั้งสายรัดชนิด PP และ PET จึงตอบโจทย์งานรัดสินค้าทุกรูปแบบ ตั้งแต่กล่องเบาไปจนถึงพาเลทหนัก
ส่วนประกอบที่ขาดไม่ได้ของระบบนี้คือ สายรัดพลาสติก ที่ใช้กับเครื่องเชื่อมสายรัดโดยตรง โดยโรงงานเลือกใช้สายรัดที่มีความหนาและความเหนียวเป็นพิเศษ ผ่านการทดสอบแรงดึงตามมาตรฐานสากล เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะไม่เคลื่อนหลุดระหว่างขนส่ง ช่วยลดความเสียหายและต้นทุนการเคลมสินค้าในกรณีเกิดความเสียหายระหว่างทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของกระบวนการคือ เครื่องรัดพลาสติก แบบอัตโนมัติที่เชื่อมต่อกับสายพานลำเลียงในคลังสินค้า ช่วยให้การรัดกล่องในปริมาณมากสามารถทำได้รวดเร็วภายในเวลาอันสั้น โดยพนักงานไม่ต้องยกหรือดึงสายรัดด้วยมืออีกต่อไป ระบบนี้สามารถรัดกล่องได้มากกว่า 1,000 กล่องต่อวัน ช่วยประหยัดแรงงานและลดต้นทุนได้อย่างเห็นได้ชัด
ความร่วมมือระหว่างเทคโนโลยี เครื่องจักร และวัสดุบรรจุภัณฑ์ กำลังพลิกโฉมโรงงานไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันระดับสากล และพร้อมก้าวสู่ยุคอุตสาหกรรม 5.0 ที่มนุษย์และเครื่องจักรทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด
เมื่อสายรัดเส้นเล็กๆ กลายเป็นตัวเชื่อมความมั่นคงของธุรกิจ ทั้งหมดเริ่มต้นจากการเลือกใช้เครื่องมือที่ “รัดแน่น” และ “คิดไกล”.
ถาม ChatGPT
เครื่องมือ